วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

CPRยุคใหม่...ช่วยผู้อื่นรอดตายได้


        ปัจจุบัน การช่วยชีวิตเบื้องต้นแบบ CPR (Cardio Pulmonary Resuscitation)  ได้รับการยอมรับว่า ปลอดภัย และสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วย ผู้ประสบเหตุฉุกเฉินให้ฟื้นสติ มีโอกาสรอดชีวิตสูง เพราะทุกที่ ทุกเวลา สามารถเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้ตลอดเวลา และในการทำงานก่อสร้างโครงการหนึ่ง ต้องเกี่ยวข้องกับคนในงานหลายด้าน หากมีเพื่อนร่วมงานคนใดคนหนึ่งเกิดหมดสติระหว่างการทำงาน  CPR จึงเป็นวิธีการสำคัญที่ผู้ปฎิบัติงานควรต้องรู้ และทำให้เป็น..
            อดีต เราคุ้นเคยกับการช่วยชีวติขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support: BLS) เป็นแนวทางปฏิบัติการพื้นฐาน 3 ขั้นตอน C-A-B (Chest compression-Airway-Breathing) คือ C-การกดหน้าอก กดหน้าอก 30 ครั้ง ช่วยให้มีเลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนสำคัญ เช่น หัวใจและสมอง ได้ดี >> A- เปิดทางเดินหายใจ >> B- ช่วยหายใจ (B) 2 ครั้ง = 30 : 2 หรือการกดหน้าอก สลับกับการเป่าปากตามจำนวนที่ว่ามา

แต่ปัจจุบันพบว่า การเป่าปากอาจก่อให้ติดเชื้อกับทั้งผู้ช่วยชีวิตและผู้รับการช่วยเหลือ ซึ่งโรคติดต่อจากทางเดินหายใจ (การเป่าปาก) จากคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ หรือคนรู้จักมีสัดส่วนสูง การช่วยชีวิตด้วยวิธีเป่าปากจึงถูกยกเลิกไป นำมาสู่รูปแบบใหม่ โดยเปลี่ยนเป็นการปั้มหัวใจ (CPR) 100-120 ครั้งต่อนาที ร่วมกับการใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจร่วมด้วย(AED) แทน
CPR เป็นการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ด้วยการปั้มหัวใจผู้ป่วย (โดยไม่ต้องมีขั้นตอนการเป่าปาก) ที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นกระทันหัน โดยใช้ความเร็วในการปั๊มถี่ขึ้น เพื่อกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้กลับมาทำงานดังเดิม เพราะสมองของคน หากขาดออกซิเจนไปเลี้ยงเกินกว่า 4 นาที จะมีผลทำให้เกิดการสูญเสียของเซลล์สมองบางส่วนไปได้อย่างถาวร แม้หัวใจจะสามารถกลับมาเต้นใหม่ได้ในภายหลัง แต่สมองส่วนที่เสียไปแล้วจะทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถฟื้นคืนสติกลับมาได้สมบูรณ์เหมือนเดิมอีก
ขั้นตอนง่ายๆ ของการช่วยเหลือเบื้องต้น หากพบผู้มีอาการหมดสติกระทันหัน หรือขาดออกซิเจนแบบเฉียบพลัน ผู้ช่วยเหลือควรเริ่มจากการประเมินสถานการณ์จริง และสังเกตอาการง่ายๆ จากการหมดสติ ไม่รู้สึกตัว การไม่หายใจ หรือหายใจเฮือก  และการที่หัวใจหยุดเต้น  เมื่อประเมินแล้วว่า CPR ควรเป็นขั้นตอนการช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อใฟ้ผู้ป่วยได้สติคืนมา (การช่วยเหลือนี้เหมาะสำหรับหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป) จึงดำเนินวิธีการ  CPR
วิธีการที่ทุกคนควรเรียนรู้ไว้ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน หรือกรณีประสบเหตุต้องช่วยคนอื่นได้ ดังนี้

1.ประสานมือข้างที่ไม่ถนัดให้อยู่ด้านล่าง

2.สังเกตุจุดกึ่งกลางระหว่างหน้าอก
3.ลำตัวตั้งตรงเหยียดแขนตึงตั้งฉากกับผู้ป่วยพร้อมกดมือลงเป็นจังหวะโดยให้กดต่อเนื่องและสม่ำเสมอให้ลึกลงประมาณ 5-6 เซนติเมตร (กรณีผู้ป่วยอายุ 18ปี ขึ้นไป) กด 100-120 ครั้งต่อนาที สลับกันกับผู้ช่วย
4.เปิดทางลมโดยใช้มือดันข้างขึ้น
5.สังเกตุการขยับตัวเช่น ท้อง หรือหน้าอกมีการขยับไหม หากยังไม่ขยับเหมือนเดิมให้ทำซ้ำใหม่ตั้งแต่ข้อ 1และรอจนกว่าทีมแพทย์ฉุกเฉินจะเข้ามาช่วย
            ทั้งนี้หากมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินอื่นประกอบ โดยเฉพาะโรคหัวใจ คือ มีอาการจุกเสียดแน่นตรงกลางหน้าอก อึดอัด หายใจไม่สะดวก ปวดร้าวไปที่คอ แขนซ้าย หรือเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หัวใจอาจหยุดเต้นอย่างกะทันหัน  ควรรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือมาที่สายด่วน 1669 เพื่อรับคำแนะนำการปฐมพยาบาลอื่นที่จะเป็นการยื้อชีวิตผู้ป่วยไว้ หรือเมื่อผู้ป่วยได้สติจากการปั้มหัวใจ จะต้องหยุดการปั้มหัวใจ ปล่อยให้ผู้ป่วยหายใจเอง รอรถพยาบาลฉุกเฉินจะมาถึง  
การทำ CPR ที่มีประสิทธิภาพนั้น จะช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยได้มาก 2-3 เท่า ดังนั้นการเรียนรู้ CPR และทำให้ถูกวิธี จึงสำคัญต่อชีวิตประจำวันในการทำงาน เพราะหากวันหนึ่งเราพบเจอเพื่อนร่วมงานหมดสติ .CPR จะเป็นวิธีที่สามารถยื้อชีวิตเพื่อนร่วมงานไว้ได้อย่างดี



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การใช้บันไดทรงเอ ให้ปลอดภัย

            เมื่อพูดถึงงานติดตั้ง ซ่อม รื้อ ที่ต้องใช้บันไดทรงเอแล้วเชื่อว่าทุกวันนี้ยังมีหลายๆท่านที่ยังใช้งานผิดวิธีในการปฎิบัติงานวันนี้เ...